ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเปิดเทอมเวียนมาคราใด พ่อ แม่ ผู้ปกครองเตรียมกระเป๋าฉีกกันอีกครา ทั้งค่าตำรา ชุดนักเรียน เครื่องเขียน รองเท้า ค่าเทอม และอีกสารพัดรายจ่ายประดัง ยังเป็นช่วงเดียวกับที่โรงรับจำนำหลายแห่ง พร้อมกรำศึกชิงลูกค้ากันอีกหน
พื้นที่ตัวเมืองจังหวัดนนทบุรี เป็นอีกสมรภูมิรบเป้าหมายหลักที่มวลหมู่โรงตึ๊งน้อยใหญ่ร่วมสิบยี่ห้อ พร้อมเปิดศึกชิงลูกค้ากันอย่างเข้มข้น
แหล่งข่าวผู้หนึ่งจาก โรงรับจำนำรักษ์ประชา ในตัวเมืองนนทบุรี บอกว่า ก่อนถึงวันเปิดเทอมประมาณ 2 สัปดาห์ จะเห็นบรรยากาศการเปลี่ยนสภาพสินทรัพย์มีค่ามาเป็นเงินสดด้วยวิธีการต่างๆ
วิธีการยอดนิยมที่สุดคือ นำทองรูปพรรณไปขายฝากไว้กับร้านทอง ไม่ก็นำไปตึ๊งไว้กับโรงรับจำนำ หรือเอาไปขายขาดคืนให้แก่ร้านทองที่ตนซื้อมา เป็นต้น
กระนั้นก็ตาม แหล่งข่าวรายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่ 2558 เป็นต้นมา ผู้คนมักไม่ค่อยมีทรัพย์สินมาจำนำกัน หรือมีก็มักจะเป็นทรัพย์สินชิ้นที่เล็กลง หรือมีมูลค่าลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
“ตั้งแต่หลังปีใหม่ เฉลี่ยแล้ววันหนึ่ง โรงรับจำนำเรามีลูกค้าเอาทรัพย์มาจำนำแค่ 30-40 ราย ไม่คึกเหมือนแต่ก่อน พลอยให้ยอดเงินรับจำนำลดลงตามไปด้วยเดือนละประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์”
เขาอธิบายวงจรความสัมพันธ์แบบเศรษฐศาสตร์ชาวบ้านว่า การที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีเงินซื้อทรัพย์สินมีค่าเก็บไว้เหมือนเมื่อก่อน
นอกจากไม่มีเงินซื้อของมีค่าเก็บไว้ หลายคนที่อยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง ยังต้องไปก่อหนี้สินเพิ่มอีกต่างหาก ผลที่ตามมา นอกจากไม่เหลือของไปจำนำ อัตราการไถ่ของคืน ก็แทบจะไม่ปรากฏ มีแต่การส่งดอกเบี้ย เพื่อยืดอายุตั๋วจำนำออกไปเท่านั้น
“ดูจากเมื่อก่อนนี้ ลูกค้ามักจะเอาทองรูปพรรณน้ำหนักชิ้นละ 1-2 บาท มาจำนำกันเยอะ แต่หลังช่วงปีใหม่กับสงกรานต์ที่ผ่านมา น้ำหนักทองรูปพรรณที่ลูกค้าเอามาจำนำโดยมากแล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 สลึง นานๆทีจึงจะมีชิ้นที่หนักกว่า 1 บาท ทั้งที่ช่วงนี้ทองราคาถูก แต่สังเกตว่าผู้คนมักจะถือครองทองคำไว้กับตัวน้อยลง จึงเริ่มเอากล้องถ่ายรูป นาฬิกา หรือทรัพย์ประเภทอื่นมาจำนำแทนทองกันมากขึ้น”
เขาเทียบให้เห็น ลูกค้า 100% ของเขา ราว 80% เลือกใช้วิธีส่งดอกเบี้ย เพื่อยืดอายุไม่ให้ตั๋วจำนำขาด อีก 20% แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าที่ไปไถ่ทรัพย์คืน กับลูกค้าที่ปล่อยให้ตั๋วจำนำขาดอายุ ยอมให้ทรัพย์หลุด
“ให้สังเกตราคาทองในตลาดเป็นหลัก ช่วงไหนที่ราคาไม่ผันผวนขึ้น-ลงเร็ว เช่น ราคานิ่งสัก 4 - 5 เดือน ลูกค้ามักจะมาต่อดอกฯสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้ของหลุด แต่ถ้าช่วงไหนราคาทองเริ่มผันผวน เช่น จากบาทละ 20,000 ร่วงลงมาเป็น 18,000-19,000 บาท ลูกค้ามักจะปล่อยหลุด เพราะไปซื้อทองใหม่ราคาถูกกว่า”
เทียบกับ สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด เจ้าของกิจการโรงรับจำนำในเครือ “อีซี่มันนี่” ซึ่งมีสาขา 30 แห่ง เขาบอกว่า ยอดการรับจำนำของเขากลับโตวันโตคืน
หัวเรือใหญ่ของอีซี่มันนี่บอกว่า ปัจจุบันเม็ดเงินหรือมูลค่ารวมของธุรกิจโรงรับจำนำในประเทศไทย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ทำให้ธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง ทั้งจากโรงรับจำนำของรัฐและเอกชน
“ปกติช่วงก่อนวันหยุดยาวปีใหม่กับวันหยุดสงกรานต์ ลูกค้ามักจะมาไถ่ทรัพย์คืน เพื่อนำไปใช้ใส่ตอนกลับบ้านต่างจังหวัด แต่พอหลังจากกลับมาทำงานต่อที่กรุงเทพฯ หลายคนเอาเงินไปใช้หมดแล้ว จึงต้องเริ่มนำทรัพย์มาฝากไว้กับโรงจำนำอีกครั้ง หลังสงกรานต์ไม่นาน ผู้ที่มีบุตรหลานก็จะถึงช่วงที่ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าตำรา เสื้อผ้า รองเท้ากันอีก จึงต้องหาทางหมุนเงินสดอีกรอบ”
สิทธิวิชญ์บอกว่า อาจเป็นเพราะโรงรับจำนำอีซี่มันนี่ กำหนดจุดยืนของตัวเองไว้ต่างจากโรงตึ๊งส่วนใหญ่ กล่าวคือ ทำให้เรื่องการเอาของไปจำนำ ไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ เจ้าของทรัพย์สิน กู้เงินของตัวเอง โดยนำทรัพย์ไปฝากไว้กับเขา เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด อย่างสง่าผ่าเผยในราคาที่เป็นธรรม ไม่ถูกกดขี่ จึงทำให้ยอดการรับจำนำของอีซี่มันนี่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 20%
“ที่ลูกค้าให้การตอบรับเราดี คงเป็นเพราะเราให้ราคาที่เป็นธรรมสูงสุดเท่าที่สภาพทรัพย์จะอำนวย แถมยังรับจำนำในวงกว้าง ตั้งแต่ทอง เพชร พลอย นาก กระเป๋าแบรนด์เนม เข็มขัด นาฬิกาไฮเอนด์ มือถือ โน้ตบุ๊ก เครื่องกรองน้ำ แว่นตา ปากกา เครื่องเงิน แม้แต่ตุ๊กตาสะสมยี่ห้อ Blythe เราก็รับครับ”
“ครกหิน ผมก็เอานะ เดี๋ยวนี้โรงรับจำนำหลายแห่งเลิกรับกันแล้ว แต่ถ้ามีคนยอมแบกมา แล้วได้ราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาทกลับไปที่อีซี่มันนี่เรายังยินดีรับอยู่ครับ”
เท่าที่แอบชำเลือง กระเป๋าถือแบรนด์เนม ยี่ห้อ Hermes รุ่น Berkin โรงตึ๊งหลายแห่งอาจจะตีราคาไม่ถูกด้วยซ้ำ แต่ที่อีซี่มันนี่กล้ารับตึ๊งไว้ในราคาถึงใบละ 100,000 บาท
นาฬิกาข้อมือหรู อย่าง Frank Muller รุ่น Long Island ตัวเรือนล้อมเพชร ถอยใหม่จากห้างฯราคาเกือบล้านฯ อีซี่ฯรับตึ๊งไว้ในราคาถึงเรือนละ 200,000 บาท แม้แต่เครื่องกรองน้ำ และเครื่องกรองอากาศ ยี่ห้อดังบางรุ่น ที่ไม่ค่อยมีตลาดรับซื้อมือสอง ก็ยังกล้ารับไว้เช่นกัน
“ลูกค้าผมจึงมีทุกระดับ ทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะที่เป็นผู้ประกอบการขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีนี่เยอะมาก ท่านเหล่านั้นเป็นผู้มีฐานะมีทรัพย์สิน เพียงแต่บางช่วงของการทำธุรกิจ ท่านอาจขาดสภาพคล่อง และต้องการที่พึ่ง ต้องการนำเงินสดไปแก้สภาพคล่องแบบไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก”
“อย่างลูกค้าบางท่านทำบ่อเลี้ยงปลา ช่วงเงินช็อต เอาเครื่องประดับมาฝากเราไว้ พอถึงวันจับปลาขาย เขาก็มาไถ่คืนไป หรือบางคนทำธุรกิจรถตู้เช่า ประมูลได้งานโปรเจกต์ใหญ่มา แต่ต้องใช้รถตู้ไปร่วมโครงการนับร้อยคันเพื่อรับ-ส่งแขก แต่ยังขาดเงินสดวางมัดจำโครงการกับผู้ร่วมทุน แบบนี้เราก็ยินดีให้บริการ”
สิทธิวิชญ์บอกว่า ลูกค้าของเขาหลายรายกลัวว่าเมื่อนำของมีค่าที่รักและหวงแหนไปจำนำไว้กับโรงจำนำทั่วไป แล้วจะดูแลทรัพย์สินไม่ดี เช่น บางโรงแอบตัดข้อทองของลูกค้าออก หรือปล่อยให้เหลี่ยมเพชรไปสีหรือกินกับหน้าเพชรเม็ดอื่น จนเกิดริ้วรอย
“เราจะใช้ซองพลาสติกอย่างหนาหุ้มไว้อย่างดี แล้วรีดด้วยความร้อนทั้ง 4 ด้าน แม้แต่ฝุ่นก็ไม่เข้าไปเกาะ จึงกล้าการันตีว่าวันที่ลูกค้าเอาทรัพย์มาฝากไว้ในสภาพใด ก็จะได้รับคืนไปในวันไถ่ในสภาพนั้น ลูกค้าบางรายฝังใจเรื่องถูกกดราคา และพูดจาไม่ให้เกียรติ เราจึงนำเสนอโรงจำนำรูปแบบใหม่ที่ลูกค้าทุกคนสามารถเดินเข้าไปใช้บริการได้อย่างผ่าเผย แถมยังมีสื่อสังคมออนไลน์ Facebook ไว้ให้ลูกค้าตรวจสอบทรัพย์หลุดจำนำได้อีกด้วย”
เมื่อเทียบกับการรับฝากทองตามร้านทองทั่วไป สิทธิวิชญ์บอกว่า ร้านทองมักจะคิดอัตราดอกเบี้ยรวดเดียว ร้อยละ 2 บาทต่อเดือน แม้จะให้ราคารับฝากที่ค่อนข้างสูง แต่ดอกเบี้ยก็สูงกว่าโรงรับจำนำ แต่ถ้าทำตั๋วหาย ระบบขายฝากตามร้านทองจะระบุไว้เลยว่า ถือเป็นการสละสิทธิ์ไถ่คืนทรัพย์ที่นำมาขายฝาก แต่โรงจำนำทั่วไปต้องอยู่ภายใต้พ.ร.บ.โรงรับจำนำ หากลูกค้าทำตั๋วหายมีใบแจ้งความมา ท่านก็ยังเป็นเจ้าของทรัพย์นั้นอยู่
วันนี้ภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจโรงรับจำนำ ไปไกลเกินกว่าที่คาด มีหลายทางเลือกใหม่ๆให้ผู้ขัดสนจนแต้ม ได้เลือกใช้บริการ ส่วนแบ่งตลาดอันหอมหวนมูลค่านับแสนล้านบาท จึงย่อมตกเป็นของผู้นำเสนอในสิ่งที่โดนใจ “นักตึ๊งมืออาชีพ” เท่านั้น.
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด